Friday, October 17, 2025

นิทรรศการและสื่อส่งเสริมการศึกษา

ผลิตและพัฒนาโดย หน่วยเทคโนโลยีส่งเสริมการศึกษา ฝ่ายเทคโนโลยีห้องสมุด สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง

นิทรรศการสามโลกนิทัศน์ (2561-2562)สื่อส่งเสริมการศึกษาสื่อส่งเสริมการศึกษาด้านผลิตสื่อการศึกษาเปรตภูมิ

หุ่นจำลองเปรตกินลูก

หุ่นจำลองเปรตกินลูก
ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ร้อยละ 85 ด้วยเทคนิคอัพไซเคิล:
ดำเนินการผลิตคลิปด้วย
KineMaster-Video Editor&Maker-Premium

การผลิตหุ่นจำลองเปรตกินลูก เพื่อเป็นสื่อส่งเสริมการศึกษาเนื้อหาวรรณคดีสุโขทัย ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ใน พระมหาธรรมราชาที่ 1 ลิไทย พระมหากษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์พระร่วง (กรมศิลปากร, 2556, หน้า 75) เกี่ยวกับเปรตภูมิ เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาวิชาการที่เป็นนามธรรมในรูปแบบรูปธรรมได้ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีการเรียนการสอนในกระบวนวิชาวรรณคดีสุโขทัย (THA 2201) ด้วย นอกจากนี้ยังผลิตเพื่อถ่ายทอดการตีความเนื้อหาทางวิชาการ เพื่อนำเสนอให้เป็นสื่อส่งเสริมการศึกษา ที่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และความเข้าใจที่มากขึ้นได้ในผู้เรียน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีการเรียนการสอนในกระบวนวิชาการจัดนิทรรศการทางการศึกษา (ECT 3805) รวมถึงนักศึกษาที่ศึกษาเกี่ยวกับการผลิตและใช้สื่อการศึกษา เช่น สาขาปฐมวัย (สถิตินักศึกษาที่เข้ารับฟังการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับการผลิตสารสนเทศนิทรรศการทางการศึกษา) สามารถนำความรู้ดังกล่าวไปปรับใช้ในการเรียนและการทำงานได้

ตามคติความเชื่อเกี่ยวกับไตรภูมิ กล่าวว่า กามภูมิ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1. สุคติภูมิ 2. ทุคติภูมิ หรือ อบายภูมิ และเปรตภูมิจัดอยู่ในกลุ่มทุคติภูมิ (กรมศิลปากร, 2556, หน้า 79) เพราะ เปรตภูมิ  เป็นดินแดนที่อยู่ของผู้ไร้ความสุข ซึ่งทุกข์ทนน้อยกว่านรกภูมิแต่ก็ห่างไกลจากความสุขอยู่มากนัก หากผู้ที่เคยเกิดในนรกภูมิแต่ชดใช้กรรมยังไม่หมด ยังคงเหลือเศษบาปอยู่ ก็จะต้องมาเกิดในเปรตภูมิต่อ เพื่อชดใช้กรรมให้หมดสิ้นจนกว่าจะพ้นกรรม (สกายบุ๊กส์, 2550, หน้า 66) ทั้งนี้ไตรภูมิกถามีคุณค่าด้านศาสนา สามารถนำหลักธรรมสำคัญมาถ่ายทอดได้อย่างมีอรรถรส สามารถทำให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องผลแห่งกรรมได้ วรรณคดีเรื่องนี้สามารถใช้อบรมสั่งสอนประชาชนให้กระทำความดีและเกรงกลัวต่อบาปได้ (กรมศิลปากร, 2556, หน้า 94) ดังเช่นกรณี เปรตกินลูก

กรมศิลปากร (2555) ได้กล่าวไว้ใน ไตรภูมิกถาฉบับถอดความ ว่า เปรตกินลูก เป็นเปรตผู้หญิงจำพวกหนึ่ง มีลักษณะเปลือยกายตลอดเวลาและมีกลิ่นตัวที่เหม็นมาก  มีแมลงวันตอมและกัดกินตัวของพวกเขาจำนวนมาก ร่างกายผายผอมไม่มีเนื้อเลยสักนิด  มีแต่เอ็นและหนังหุ้มที่กระดูกอยู่ เปรตพวกนี้อดอยากมาก  หาอะไรกินไม่ได้เลย เมื่อเปรตผู้หญิงพวกนี้คลอดลูก โดยส่วนมากมักจะคลอดครั้งละ 7 คน และด้วยความหิวจึงอดทนไม่ไหว จับลูกตัวเองมากัดกินเนื้อเป็นอาหาร เพื่อบรรเทาความหิว แต่ก็ไม่อิ่ม ซึ่งเป็นแบบนี้ซ้ำ ๆ กันไป เหตุผลที่พวกเขาต้องกินเนื้อลูกของตัวเองนั้น  เพราะอยากกินมากจนอดใจไม่ได้

เปรตจำพวกนี้เมื่อครั้งเป็นคนเคยให้ยาแก่ผู้หญิงมีครรภ์กินเพื่อให้แท้งลูก แต่เมื่อถูกจับได้ก็ปฏิเสธและได้ให้คำสาบานว่า “ถ้าฉันให้ยาผู้หญิงกินและทำให้แท้งลูก  ขอให้ฉันเป็นเปรตมีเนื้อตัวเหม็น และมีแมลงวันตอม  เจาะกินอยู่ตลอดเวลา ให้ฉันคลอดลูกตอนเช้า 7 คน ตอนเย็น 7 คน ทุกวัน แล้วให้ฉันกินเนื้อลูกตัวเองทุกวันตลอดไป”  เพราะบาปเกิดจากการที่เขาให้ยาผู้หญิงมีครรภ์กินและทำให้แท้งลูก  และได้สบถสาบานไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเปลือยกายอยู่และมีแมลงวันตอมเจาะกินตัว  พวกเขาผอมมากไม่มีเนื้อเลย และจิกกินเนื้อลูกของตนทุกวัน  วันละ 14 ตน ตลอดเวลา สอดคล้องกับ สกายบุ๊กส์ (2550, หน้า 73) ได้กล่าวไว้ใน เล่าเรื่องไตรภูมิพระร่วง ฉบับการ์ตูน ว่า มีเปรตพวกหนึ่งมีเพศหญิง รูปร่างผอม ร่างกายเหม็นเน่า มีแมลงไต่ตอมทั่วตัว อดยากมาก ด้วยความหิวจึงจับลูกที่คลอดออกมาฉีกเนื้อกิน เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะเมื่อเป็นคนทำบาป ทำแท้งฆ่าทารก นั่นเอง

ขั้นตอนการผลิตหุ่นจำลอง “เปรตกินลูก”

หุ่นจำลองเปรตเปรตกินลูก ผลิตขึ้นมาด้วยวัสดุเหลือใช้ในอัตราร้อยละ 85 เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสามารถประหยัดงบประมาณได้ โดยผลิตขึ้นตามหลัก Upcycle โดยนำศิลปะไทยเป็นแนวทางหลักในการออกแบบหุ่นจำลอง มีการปรับประยุกต์รูปแบบการ์ตูนเข้าไปในชิ้นงานด้วย เพื่อให้เกิดความน่าสนใจและเข้าใจที่ง่ายมากยิ่งขึ้นในกลุ่มนักศึกษาช่วงอายุ 18 – 25 ปี โดยประมาณ อีกทั้งเพื่อลดทอนความน่ากลัวจากเนื้อหาให้ดูน่าสนใจดึงดูดการอยากเรียนรู้ที่มากขึ้น

1. นำลวดมาขึ้นโครงสร้างให้มีลักษณะเหมือนกับโครงกระดูกมนุษย์
2. นำฟอยล์ห่ออาหาร มาห่อหุ้มลวดที่ดัดเอาไว้แล้ว
3. นำดินเยื่อกระดาษมาปั้นหุ่นจำลองตามที่ได้ศึกษาข้อมูลมา เพื่อสื่อสารความรู้ให้เกิดความเข้าใจที่มากยิ่งขึ้นได้ โดยในการผลิตหุ่นจำลองในครั้งนี้ได้ออกแบบให้มีลักษณะกลิ่นไอความเป็นการ์ตูนผสมผสานลงไปในงานด้วย เพื่อลดทอนความน่ากลัวและดึงดูดความสนใจของผู้เข้าศึกษางาน
4. ลงสีให้คุมบรรยายากาศ ตามข้อมูลที่ได้ศึกษามา เพื่อไม่ให้หลงทางในการสื่อสารความรู้ ทั้งนี้การเข้าใจในแก่นของข้อมูลเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะจะสามารถใช้เป็นพื้นฐานในการผลิตสื่อส่งเสริมการศึกษาที่สามารถสนับสนุนการศึกษาให้ดียิ่งขึ้นได้
5. นำหุ่นจำลองที่ผลิตสำเร็จแล้ว มาติดตั้งในพื้นที่จัดแสดง ตกแต่งสีเพิ่มเติม เพื่อให้เข้ากับผลงานหรือบรรยากาศโดยรวม ไม่ให้หลุดออกจากกันมากเกินไป เพื่อเป็นการควบคุมบรรยากาศของการจัดแสดงไปในทิศทางที่สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้ศึกษามาแล้ว
6. ตกแต่งด้วยต้นไม้จำลองเพื่อสร้างบรรยายกาศที่น่าสนใจให้มีมากยิ่งขึ้น ติดป้ายกำกับเพื่ออธิบายต่อผู้เข้าศึกษางาน
นักศึกษาสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่
ที่มา. จาก ไตรภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง (ปกใน), โดย พระมหาธรรมราชา 1 พญาลิไทย, 2526, กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร.
ที่มา. จาก เล่าเรื่องในไตรภูมิ (หน้าปก), โดย เสฐียรโกเศศ, 2542, นนทบุรี : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

อ้างอิงข้อมูลจาก:

กรมศิลปากร, คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ. (2556). วรรณคดีแห่งชาติ เล่ม 1. กรุงเทพมหานคร : เอดิสัน เพลส โพรดักส์.

กรมศิลปากร, สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์. (2555). ไตรภูมิกถาฉบับถอดความ. ค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2565, จาก https://vajirayana.org/ไตรภูมิกถาฉบับถอดความ/บทที่-๓-แดนเปรต

สกายบุ๊กส์. (2550). เล่าเรื่องไตรภูมิพระร่วง (ฉบับการ์ตูน). ปทุมธานี : สกายบุ๊กส์.